ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ VS ถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ เลือกแบบไหนที่ใช่สำหรับการใช้งาน?

วิธีเลือกใช้ถังบำบัดน้ำเสียโดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด

ถังบำบัดน้ำเสียเป็นระบบที่ใช้ในการกำจัดสิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ รวมไปถึงบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งธรรมชาติ ทั้งนี้ถังบำบัดน้ำเสียมีด้วยกัน 2 ประเภทหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันนั่นก็คือ ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ และถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ ซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นหน้าที่ของคุณในการเลือกใช้ถังบำบัด โดยทั้งสองมีหลักการบำบัดที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากในการเลือกใช้!

เน้นคุณภาพเลือกใช้ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ

ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ (Aerobic Sewage Treatment Plant) จะเป็นระบบบำบัดน้ำเสียที่อาศัยการเติมอากาศลงในน้ำเสียโดยจะมีท่อเติมอากาศคอยลำเลียงอากาศเข้าไปในถังน้ำบัด เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ใช้อากาศ ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียสามารถเจริญเติบโต และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าน้ำที่ออกมาจากถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ จะมีคุณภาพของน้ำที่ดีกว่าถังบำบัดไร้อากาศ ด้วยกระบวนการของถังบำบัดดังกล่าวที่ค่อนข้างจะเป็นขั้นเป็นตอนมากกว่า

ทั้งนี้ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศจะมีส่วนต่าง ๆ ที่คอยบำบัดน้ำก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

• บ่อเกรอะ

บ่อเกรอะเปรียบเหมือนหัวใจหลักของถังบำบัด โดยจะทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เช่น เศษอาหาร เศษขยะ และไขมันไม่ให้เข้าสู่ตัวถังได้ ซึ่งบ่อเกรอะเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียแบบดั้งเดิม มีลักษณะเป็นบ่อปิดมิดชิด ทั้งนี้ยังกักเก็บน้ำเสียได้ชั่วคราวก่อนจะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ

• บ่อเติมอากาศ

บ่อเติมอากาศจะมีหน้าที่เติมอากาศเข้าสู่ตัวถังบำบัดเพื่อให้จุลินทรีย์ภายในถังเติบโตขึ้น ซึ่งจะทำให้จุลินทรีย์เหล่านั้นจะไปย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการนี้เรียกว่า ‘การย่อยสลายแบบใช้ออกซิเจน’ โดยภายในบ่ออากาศก็จะมีเครื่องเติมอากาศอีกทีเพื่อที่จะคอยเติมอากาศลงไปในถังบำบัดเรื่อย ๆ ซึ่งจะมีหลายประเภทด้วยกัน เช่น แบบทุ่นลอย แบบหมุน และแบบตีกวน คุณก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม

• บ่อตกตะกอน

บ่อตกตะกอนเป็นบ่อที่ทำหน้าที่แยกตะกอนออกจากน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว โดยอาศัยการตกตะกอนตามแรงโน้มถ่วงของโลกนับว่าเป็นกลไกสำคัญของถังบำบัดน้ำเสีย เพราะตะกอนที่กล่าวไปล้วนเป็นสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เศษอาหารต่าง ๆ รวมถึงจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย

ทั้งหมดคือส่วนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในถังบำบัดน้ำเสีย เป็นสามส่วนที่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะการทำงานของถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เริ่มต้นจากน้ำเสียจากห้องน้ำ หรือพื้นที่อื่น ๆ ที่คุณได้เชื่อมเอาไว้ จากนั้นจะถูกส่งไปยังบ่อเกรอะเพื่อดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ และน้ำเสียจะถูกสูบเข้าสู่บ่อเติมอากาศ ซึ่งจะมีการเติมอากาศลงในน้ำเสีย เพื่อให้จุลินทรีย์ที่อยู่ในตัวถังบำบัดใช้อากาศในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียสามารถเจริญเติบโตและทำงานได้ สารอินทรีย์ต่าง ๆ ก็จะถูกย่อยสลายเป็นน้ำ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้วจะถูกส่งไปยังบ่อตกตะกอนอีกทีหนึ่งเพื่อแยกน้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้วออกจากตะกอน น้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้วสามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำได้ ส่วนตะกอนจะถูกนำไปกำจัดต่อไป จะเห็นว่าทั้งสามส่วนล้วนมีหน้าที่ชัดเจน จึงทำให้น้ำที่ปล่อยมาจากถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศมีคุณภาพดี

ทั้งนี้ข้อดีของถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ จะมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียสูงมากดังที่กล่าวไปแล้ว โดยค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand) ของน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วควรน้อยกว่า 20 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานน้ำทิ้งของประเทศไทย และยังช่วยลดกลิ่นเหม็นของน้ำเสีย เนื่องจากจุลินทรีย์ที่ทำงานในสภาพที่มีอากาศจะย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียให้เป็นน้ำและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งไม่มีกลิ่นเหม็นตกค้าง รวมไปถึงช่วยลดปริมาณของเสียที่ต้องนำไปกำจัด เนื่องจากตะกอนที่เกิดขึ้นจากกระบวนการบำบัดจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในบ่อตกตะกอน ทำให้สามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำได้เลย

เน้นสะดวกเลือกใช้ถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ

ถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ (Anaerobic Integrated Sewage Treatment System) เป็นระบบบำบัดน้ำเสียที่อาศัยจุลินทรีย์ที่ทำงานในสภาพไร้อากาศในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย ดังนั้นสภาวะในบ่อจึงเป็นแบบไร้อากาศ หรือเป็นระบบสุญญากาศนั่นเอง

ซึ่งจะมีส่วนที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เพราะมีสามส่วนเช่นเดียวกันดังนี้

• ช่องเกรอะ

จะทำหน้าที่เหมือนกันกับบ่อเกรอะเพียงแต่ว่าช่องเกรอะมักใช้ร่วมกับบ่อเกรอะ และบ่อซึมในถังบำบัด โดยช่องเกรอะจะทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ไว้ก่อน จากนั้นจึงส่งน้ำเสียที่เหลือไปยังบ่อเกรอะเพื่อย่อยสลายต่อไป

• ช่องย่อยสลาย

ช่องย่อยสลาย จะมีลักษณะเป็นบ่อหรือถังที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียโดยอาศัยจุลินทรีย์ที่ทำงานในสภาพสุญญากาศ (ไม่มีอากาศ) ซึ่งจะใช้กระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ในช่องย่อยสลายจะทำให้เกิดแก๊สชีวภาพ ซึ่งประกอบด้วยมีเทน และคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแก๊สชีวภาพที่กล่าวไปข้างต้นสามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือพลังงานทดแทนได้ ทั้งนี้ช่องย่อยสลายจะสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียก่อน จากนั้นจึงส่งน้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้วไปยังบ่อพักน้ำเสีย จึงนับเป็นกลไกที่ชูความเด่นของถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศเลยทีเดียว

ทั้งนี้ถังบำบัดน้ำเสียชนิดนี้จะมีช่องกรอง ซึ่งจะอยู่ถัดมาจากช่องย่อยสลาย ทำหน้าที่กรองตะกอนออกจากน้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้ว ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับบ่อตกตะกอนของถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ

สรุปแล้วการทำงานของถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ เริ่มต้นจากน้ำเสียที่ไหลเข้าสู่ตัวถัง จากนั้นจะถูกส่งไปยังช่องเกรอะเพื่อดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ และน้ำเสียจะถูกส่งไปยังช่องย่อยสลาย ซึ่งจะมีจุลินทรีย์ที่ทำงานในสภาพไร้อากาศอาศัยอยู่ จุลินทรีย์เหล่านี้จะย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียให้เป็นแก๊สมีเทน คาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ น้ำเสียที่ผ่านการย่อยสลายแล้วจะถูกส่งไปยังช่องกรองเพื่อกรองตะกอนออกจากน้ำเสีย น้ำเสียที่ผ่านการกรองแล้วสามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำได้ เหมือน ๆ กันกับถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เพียงแต่ว่าคุณภาพน้ำที่อาจจะสู้ไม่ได้

ส่วนข้อดีของถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศคือ ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการเติมอากาศเข้าไป ถังไม่พังง่าย รวมไปถึงเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ค่อยสะดวกเรื่องไฟฟ้า

จะรู้ได้ยังไงว่าคุณควรใช้ถังบำบัดน้ำเสียประเภทใด ?

มาถึงตาคุณต้องเลือกแล้วว่าอยากได้ถังน้ำบำบัดแบบไหนมากกว่ากัน หากยังไม่มั่นใจ WAVE Water Innovation ขออธิบายปัจจัยที่คุณควรคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อดังนี้

• จำนวนผู้ใช้งาน

หากบ้านพักอาศัย หรืออาคารที่คุณอาศัยอยู่มีจำนวนผู้ใช้มาก และต้องการบำบัดน้ำเสียให้ได้คุณภาพสูง ควรเลือกถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เนื่องจากถังดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียสูงกว่าถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศ ทั้งนี้ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการเติมอากาศอย่างสม่ำเสมอ หากมีไฟฟ้าสะดวก แนะนำให้เลือกใช้ถังบำบัดน้ำเสียประเภทเติมอากาศจะดีที่สุด

แต่ในทางกลับกัน หากมีจำนวนผู้ใช้ที่น้อย และต้องการบำบัดน้ำเสียให้ได้คุณภาพปานกลาง การเลือกถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เนื่องจากถังบำบัดชนิดรวมไร้อากาศมีต้นทุนต่ำกว่าถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ และไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการเติมอากาศ

• ขนาดของพื้นที่

เป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คนเพราะบางคนที่ซื้อถังบำบัดมาแล้ว แต่ขนาดพื้นที่ดันไม่พอ ต้องบอกเลยว่าหากมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ควรเลือกถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เพราะมีขนาดเล็ก ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย แต่ถ้าหากว่ามีพื้นที่เหลือเฟือ ก็สามารถจิ้มได้เลยว่าจะเลือกแบบไหน

นอกจากปัจจัยข้างต้นที่ควรพิจารณาในการเลือกถังบำบัดน้ำเสียแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณเองไม่ควรมองข้ามไม่ว่าจะเป็น ความลาดเอียงของพื้นที่ รวมไปถึงระดับน้ำใต้ดิน
สุดท้ายแล้วหากคุณกำลังมองหาถังบำบัดน้ำเสียทั้งสองรูปแบบ ต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ ติดต่อ WAVE Water Innovation เลย เราคือแบรนด์ชั้นนำผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำ ถังน้ำ 1000 ลิตร ถังน้ำ 2000 ลิตร ถังเก็บน้ำบนดิน ราคาถังน้ำคุ้มค่าที่สุด ตลอดจนปั๊มน้ำ, ถังบําบัดน้ำเสีย 1000 ลิตร ราคาคุณภาพ, ถังบําบัดน้ําเสีย 2000 ลิตร ราคาคุ้มค่า, ถังไฟเบอร์กลาส ฯลฯ

สอบถามรายละเอียดถังดักไขมัน WAVE เพิ่มเติม ได้ที่

สำนักงานใหญ่ 648-648/2 ถนนบางบอน 5 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
ให้บริการทุกวัน จันทร์-เสาร์ เวลา 8.00-17.00 น.

Tel : 02-814-8565, 02-814-9449, 081-7003411
LINE : @wave.co.th
E-Mail : contact@wave.co.th
Website : https://www.wave.co.th
Facebook : www.facebook.com/wavecommunity