ความรู้เรื่องน้ำกับเวฟ
เคล็ดลับ ! เลือกถังเก็บน้ำบนดินอย่างไรให้ได้มาตรฐาน**
เคล็ดลับ ! เลือกถังเก็บน้ำบนดินอย่างไรให้ได้มาตรฐาน
พร้อมหลักพิจารณา 4 ข้อที่ควรรู้ก่อนซื้อ “ถังเก็บน้ำ”
ท่านที่กำลังมีแผนสร้างบ้าน นอกจากตัวบ้าน และการตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกแล้ว สิ่งที่ท่านอาจจะลืมคิดไป เพราะทางช่าง หรือโครงการอาจจะคิดให้ท่านเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับท่านที่ใส่ใจในการวางแผนที่จะสร้างบ้านใหม่มักจะไม่พลาดเลย คือ การวางแผนเรื่อง “ถังเก็บน้ำ” เพราะถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ควรมีการเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสำรองน้ำใช้ในกรณีฉุกเฉิน ปัจจุบันเราสามารถที่จะวางแผนอยู่ 2 ทางเลือกทั้งแบบติดตั้งบนดิน และฝังลงใต้ดิน โดยแต่ละแบบก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วแบบไหนล่ะ ที่จะดีกับบ้านของท่านมากที่สุด ในบทความนี้เรามีคำตอบมาให้ท่านแล้ว พร้อมสูตรคำนวณปริมาณน้ำเพื่อใช้รองรับความต้องการอย่างเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว
“ถังเก็บน้ำบนดิน” เป็นถังเก็บน้ำที่ติดตั้งอยู่บนพื้นดิน โดยจะมีการเสริมฐานเพื่อรองรับน้ำหนักด้วยเสาเข็มสั้น และเทฐานคอนกรีตตามขนาดของถังน้ำเพื่อป้องกันการทรุดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดินบริเวณนั้นมีโอกาสทรุดตัวหรือเปียกอยู่ตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะเป็น ถังน้ำ 1000 ลิตร หรือ ถังน้ำ 2000 ลิตร เราได้รวบรวมวิธีการในการเลือก ถังเก็บน้ำ โดยมีหลักให้พิจารณา 4 ข้อ ดังนี้
1. จำนวนคนในครอบครัว : ท่านสามารถตรวจสอบสมาชิกภายในบ้านว่า มีอยู่กี่คนเพื่อนำมาคำนวน ปริมาณการใช้น้ำต่อวันทั้งหมดภายในบ้าน รวมถึงการสำรองน้ำเมื่อถึงเหตุฉุกเฉินในอนาคตได้
2. ปริมาณการใช้น้ำต่อคนต่อวัน : ข้อนี้สำคัญมาก เนื่องจากเราจะสามารถกำหนดปริมาณการซื้อ “แท้งค์เก็บน้ำ” ด้วยความจุเท่าใด เราจะคำนวณจากปริมาณการใช้น้ำต่อคนภายในระยะเวลา 1 วัน แล้วเราจะทราบได้อย่างไรล่ะว่า วันนึงเราใช้น้ำคนละเท่าไหร่ ทางเราได้หาข้อมูลปริมาณการใช้น้ำทางการประปาโดยได้คำนวนมาให้เราเรียบร้อยแล้ว ว่า ใน 1 วัน จะใช้น้ำ เฉลี่ยอยู่ที่ 200 ลิตร/คน/วัน (ที่เป็นแบบบ้านพักอาศัย) โดย 200 ลิตรนี้จะรวมทุกกิจกรรม ตั้งแต่ ทั้งอุปโภค และ บริโภค
3. จำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำในอนาคต : ท่านสามารถตรวจสอบ ประวัติการหยุดจ่ายน้ำปะปาในบริเวณพื้นที่ที่ท่านพักอาศัย ว่าเคยมีประวัติน้ำประปาไม่ไหล หรือไหลอ่อนกี่วัน โดยทั่วไป ให้ตั้งไว้กลาง ๆ ซัก 2 – 3 วัน เพราะเมื่อเกิดเหตุน้ำไม่ไหล ขึ้นมาจริง ๆ ท่านก็จะยังมีน้ำใว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน
4. พื้นที่ที่จะวางถังเก็บน้ำบนดิน : ข้อนี้สำคัญมาก เมื่อท่านมีขนาดถังเก็บน้ำที่ต้องการแล้ว อย่าลืม สำรวจพื้นที่ที่จะวางถังด้วยว่าเพียงพอกับ ถังเก็บน้ำที่ท่านจะซื้อมาหรือเปล่า เพราะถ้าซื้อมาแต่พื้นที่ตั้งไม่พอ อาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการขอเปลี่ยนขนาดได้ ซึ่งการเลือกพื้นที่ที่จะวางถังเก็บน้ำ ก็จะแตกต่างกันตามขนาดบ้าน เช่น บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์โฮม หรืออาคาร เนื่องจากหมู่บ้านจัดสรรในปัจจุบัน ขนาดของบ้านมีแนวโน้มที่มีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับราคาซื้อขาย ในกรณีบ้านเดี่ยวอาจจะพบปัญหาไม่มากนัก แต่การเลือกถังเก็บน้ำ สำหรับบ้านทาวน์โฮม ที่มีข้อจำกัดในเรื่องข้องพื้นที่ ควรเลือกถังเก็บน้ำ พร้อมปั๊ม เพราะจะช่วยเกี่ยวกับการบริหารจัดการพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะมีข้อดีเรื่องพื้นที่แล้ว ยังหมดเรื่องของความแรงน้ำที่ท่านจะไม่หงุดหงิดตอนใช้น้ำอีกด้วย ดังนั้นการพิจารณาเลือกสถานที่ตั้ง และฟังก์ชั่นการใช้งานจึงมีความสำคัญมากทีเดียว จากข้างต้นที่เรารู้จักการคำนวณแล้ว เราจะมา เลือกถังเก็บน้ำบนดินอย่างไรให้ได้มาตรฐาน โดยเริ่มจาก
ชนิดของถังเก็บน้ำบนดิน
1. ถังสแตนเลส : เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากสแตนเลส ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทาน แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน มักมาพร้อมกับขาตั้งและช่องระบายน้ำบริเวณก้นถัง ทำให้ล้างทำความสะอาดภายในได้ง่าย นอกจากนี้ตัวถังยังมีความทึบแสง จึงไม่ก่อให้เกิดตะไคร่น้ำ แต่เหมาะสำหรับกักเก็บน้ำประปาเท่านั้น ไม่ควรเก็บน้ำกร่อย น้ำบาดาล หรือน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี เนื่องจากไม่ทนต่อกรดและด่าง และควรเลือกถังเก็บน้ำสแตนเลสที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการเกิดสนิมบริเวณรอยต่อและรอยเชื่อม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการใช้งานได้
2. ถังไฟเบอร์กลาส : เป็นถังเก็บน้ำที่ทำจากวัสดุไฟเบอร์กลาส ซึ่งมักมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง สามารถรองรับแรงอัดได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่เป็นสนิม ใช้บรรจุน้ำได้หลายชนิด เหมาะกับการเก็บสำรองน้ำในปริมาณมาก ๆ แต่ในบางครั้งจะพบว่ามีกลิ่นปะปนมากับน้ำที่ใช้งาน ซึ่งเกิดจากเรซิ่นที่ใช้เคลือบผิว และไม่แนะนำใช้วางตั้งไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอาจทำให้วัสดุแตกร้าวได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น หากใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ใยไฟเบอร์กลาสมีโอกาสหลุดออกมาปนเปื้อนกับน้ำได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ยากกว่าถังเก็บน้ำประเภทอื่น เพราะมีพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนนั่นเอง
3. ถังพลาสติกทั่วไป : ถังเก็บน้ำพลาสติกหรือถังน้ำโพลิเมอร์ชนิดไม่ทึบแสงผลิตจากวัสดุ PE จึงมีราคาถูกกว่าถังเก็บน้ำชนิดอื่น แต่ก็มีอายุการใช้งานสั้น และมักซีดจางเมื่อใช้ไปนาน ๆ แม้จะไม่มีปัญหาเรื่องสนิม แต่ก็ไม่ควรวางไว้กลางแจ้งเนื่องจากคุณสมบัติที่ไม่ทึบแสง แสงแดดจึงสามารถลอดผ่านตัวถังเข้าไปได้ จึงอาจทำให้เกิดตะไคร่น้ำภายในตัวถัง รวมถึงเกิดเมือกลื่น ส่งผลให้ถังมีกลิ่น ถังเก็บน้ำบนดินประเภทนี้จึงเหมาะกับการใช้งานชั่วคราวมากกว่า
4. ถังพอลิเมอร์ชนิดพิเศษ : เป็นถังเก็บน้ำรุ่นใหม่ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ผลิตจากวัสดุชนิดพิเศษ ได้แก่ เอลิเซอร์ (Elixer) และอินโนว่า (INNOVA) เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบในถังเก็บน้ำชนิดพลาสติกทั่วไป ข้อดีของถังเก็บน้ำประเภทนี้ คือ ทนทานต่อแสง UV เนื่องจากใช้นวัตกรรมผสานสีเข้ากับโพลิเมอร์ สามารถใช้งานกลางแจ้งได้โดยไม่ทำให้สีซีด ไม่กรอบง่าย อีกทั้งมีความทึบแสง จึงไม่เป็นตะไคร่น้ำ ทำให้น้ำที่กักเก็บไว้มีความสะอาดและปลอดภัยกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อน สามารถใช้บรรจุน้ำดื่มได้ อีกทั้งมีรูปทรงให้เลือกหลากหลายแบบ
บริษัท WAVE ผลิตและจำหน่ายถังเก็บน้ำบนดิน ถังเก็บน้ำ พร้อมปั๊ม แท้งค์น้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ถังดักไขมัน
ถังแซท ถังไฟเบอร์กลาส ปั๊มน้ำ มาตรฐานสากล ปลอดภัย ดีไซน์สวยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว เรามุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิต เลือกสรรวัตถุดิบที่ได้มาตราฐานสากล เพื่อความสะอาดปลอดภัย ไร้สารตกค้างไปสู่ผู้บริโภค แข็งแรงทนทาน มีให้เลือกหลากหลายแบบและหลากหลายสีจึงทำให้ WAVE ได้รับความไว้วางใจจากผู้ซื้อมากมาย
สอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม หรือสั่งถังเก็บน้ำบนดิน คู่ปั๊ม หรือถังเก็บน้ำ พร้อมปั๊มจากแบรนด์ WAVE ได้ที่
FANPAGE :
https://www.facebook.com/wavecommunity/
LINE : @wave.co.th
E-MAIL : contact@wave.co.th
Website : https://www.wave.co.th
Call Center : 02-814-8565