มัดรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถังน้ำ ถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ฯลฯ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถังน้ำ ถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ฯลฯ มีดังนี้
ถังน้ำ 1000 ลิตร ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ คุณสมบัติ และยี่ห้อ โดยถังน้ำ WAVE รุ่น Flora ขนาด 1000 ลิตร ราคาพิเศษ 6,390.00 บาท รับประกันยาวนาน 20 ปี ปลอดเชื้อแบคทีเรีย ลายแกรนิต แถมฟรีลูกลอย
ถังเก็บน้ำที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น วัสดุ คุณสมบัติ ดีไซน์ และราคา โดยถังเก็บน้ำ WAVE ผลิตจากวัสดุ HD980 Innova plus เกรดพรีเมียม แข็งแรง ทนทาน ปลอดเชื้อแบคทีเรีย รับประกันยาวนาน 15-20 ปี
ถังเก็บน้ำ 500 ลิตร ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ คุณสมบัติ และยี่ห้อ โดยถังเก็บน้ำ WAVE รุ่น Flora ขนาด 500 ลิตร ราคาพิเศษ 4,590.00 บาท รับประกันยาวนาน 20 ปี แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น
ถังน้ำ 1,000 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 30 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้น้ำในแต่ละวัน เช่น หากใช้น้ำวันละ 300 ลิตร ถังน้ำ 1,000 ลิตร จะสามารถใช้ได้ประมาณ 30 วัน
ถังน้ำมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 50 ลิตร ไปจนถึง 10,000 ลิตร โดยถังน้ำ 1,000 ลิตร และ ถังน้ำ 2,000 ลิตร เป็นขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ถังเก็บน้ำบนดินมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 500 ลิตร ไปจนถึง 10,000 ลิตร โดยถังเก็บน้ำบนดินขนาด 1,000 ลิตร เป็นขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ถังเก็บน้ำ 500 ลิตร เพียงพอสำหรับครัวเรือนขนาดเล็กที่มีสมาชิกประมาณ 2-3 คน หากใช้น้ำวันละ 300 ลิตร ถังน้ำ 500 ลิตร จะสามารถใช้ได้ประมาณ 15 วัน
ถังเก็บน้ำแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
ถังเก็บน้ำบนดิน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอในการวางถังเก็บน้ำ เช่น บริเวณหลังบ้าน หรือข้างบ้าน เป็นต้น
ถังเก็บน้ำใต้ดิน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถวางถังน้ำบนดินได้
การมีถังเก็บน้ำช่วยให้เรามีน้ำใช้อย่างเพียงพอในช่วงที่น้ำประปาไม่ไหลหรือมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ โดยถังเก็บน้ำสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงเวลาต่างๆ เช่น ช่วงเวลาที่น้ำประปาขัดข้อง ช่วงเวลาที่น้ำประปาไหลอ่อน หรือช่วงเวลาที่น้ำประปาไม่ไหลในช่วงหน้าแล้ง
ลูกลอยเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำในถังเก็บน้ำ โดยลูกลอยจะเปิดน้ำเข้าถังเก็บน้ำเมื่อระดับน้ำในถังลดลง และปิดน้ำเข้าถังเก็บน้ำเมื่อระดับน้ำในถังสูงขึ้น การมีลูกลอยจึงช่วยให้ระดับน้ำในถังเก็บน้ำคงที่ ซึ่งช่วยลดปัญหาน้ำล้นถังหรือน้ำไม่ไหล
โดยทั่วไป ถังเก็บน้ำ 1 คนใช้ประมาณ 100-150 ลิตรต่อวัน สำหรับ 3 คนจึงใช้ประมาณ 300-450 ลิตรต่อวัน
หากเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีน้ำประปาไหลตลอดวัน อาจใช้ถังเก็บน้ำขนาด 1,000-2,000 ลิตรก็เพียงพอแล้ว แต่หากเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตชนบทที่มีน้ำประปาไม่ไหลตลอดวัน หรือมีการใช้น้ำมาก อาจต้องเลือกถังเก็บน้ำขนาดใหญ่กว่านี้
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น จำนวนคนในบ้าน ปริมาณการใช้น้ำในแต่ละวัน ตำแหน่งที่ตั้งของบ้าน (ในเขตเมืองหรือชนบท) งบประมาณ เป็นต้น
หากยังไม่แน่ใจว่าควรซื้อถังเก็บน้ำขนาดไหน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทผู้ผลิตถังเก็บน้ำได้
ถังน้ำ 2,000 ลิตร ใช้ประมาณ 3-4 คน สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 คน ถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตรอาจเพียงพอสำหรับใช้อุปโภคบริโภคทั่วไป แต่หากมีการใช้น้ำมาก เช่น รดน้ำต้นไม้ อาบน้ำ ทำความสะอาดบ้านบ่อยครั้ง อาจต้องเลือกถังเก็บน้ำขนาดใหญ่กว่านี้
ราคาถังเก็บน้ำ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต ขนาด ยี่ห้อ และรุ่น เช่น แท้งน้ำ 2000 ลิตร WAVE รุ่น The PALM (เดอะปาล์ม) ราคา 15,490 บาท รับประกันตลอดอายุการใช้งาน ผลิตจาก HD980 Innova plus วัตถุดิบใหม่ แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น
ถังเก็บน้ำ PE (Polyethylene) เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากพลาสติก PE มีคุณสมบัติทนทานต่อสารเคมี ไม่เป็นสนิม ทนทานต่อแสงแดด และมีอายุการใช้งานยาวนาน
ถังเก็บน้ำที่ทนทานควรผลิตจากวัสดุคุณภาพดี เช่น PE หรือ FRP (Fiber Reinforced Plastic) และควรผ่านการทดสอบคุณภาพมาตรฐาน เช่น มอก.216-2548
สีของถังเก็บน้ำไม่มีผลต่อคุณภาพของน้ำ แต่สีฟ้าเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ถังเก็บน้ำเย็นและลดการเกิดตะไคร่น้ำได้
ถังน้ำฝังดินมีข้อดีคือประหยัดพื้นที่ใช้สอย แต่มีข้อสังเกตุคืออาจเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้ หากติดตั้งไม่ถูกต้อง
สีฟ้าเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ถังเก็บน้ำเย็นและลดการเกิดตะไคร่น้ำได้ แต่สีของถังเก็บน้ำไม่มีผลต่อคุณภาพของน้ำ
ราคาถังเก็บน้ำ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต ขนาด ยี่ห้อ และรุ่น เช่น แท้งน้ำ 2000 ลิตร WAVE รุ่น The PALM Supreme ราคา 16,290 บาท รับประกันตลอดอายุการใช้งาน ผลิตจาก HD980 Innova plus วัตถุดิบใหม่ แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น
ถังบำบัดน้ำเสีย คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากครัวเรือน อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยทำหน้าที่แยกน้ำเสียออกเป็นน้ำใสและน้ำเสียข้น น้ำใสสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ส่วนน้ำเสียข้นจะถูกนำไปกำจัดต่อไป
ถังบำบัดน้ำเสียสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ (Aerobic Sewage Treatment Tank) เป็นถังบำบัดน้ำเสียที่อาศัยจุลินทรีย์ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย โดยจุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเพียงพอ
- ถังบำบัดน้ำเสียแบบไร้อากาศ (Anaerobic Sewage Treatment Tank) เป็นถังบำบัดน้ำเสียที่อาศัยจุลินทรีย์ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย โดยจุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอากาศ
ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศจะแบ่งออกเป็น 2 ถังหลักๆ ได้แก่ ถังเติมอากาศ (Aeration Tank) และถังตกตะกอน (Settling Tank)
- ถังเติมอากาศ จะเป็นถังที่มีอากาศถูกสูบฉีดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตและย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย
- ถังตกตะกอน จะเป็นถังที่น้ำเสียจะไหลผ่านเพื่อตกตะกอน โดยน้ำใสจะไหลออกมาจากถัง ส่วนน้ำเสียข้นจะถูกนำไปกำจัดต่อไป
ถังบำบัดน้ำเสียแบบไร้อากาศจะแบ่งออกเป็น 2 ถังหลักๆ ได้แก่ ถังย่อยสลาย (Digestion Tank) และถังตกตะกอน (Settling Tank)
- ถังย่อยสลาย จะเป็นถังที่น้ำเสียจะไหลผ่านเพื่อย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอากาศ
- ถังตกตะกอน จะเป็นถังที่น้ำเสียจะไหลผ่านเพื่อตกตะกอน โดยน้ำใสจะไหลออกมาจากถัง ส่วนน้ำเสียข้นจะถูกนำไปกำจัดต่อไป
ขนาดของถังบำบัดน้ำเสียจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเสียที่ใช้งาน โดยสามารถคำนวณได้จากสูตรดังนี้
ขนาดถังบำบัดน้ำเสีย (ลิตร) = ปริมาณน้ำเสียต่อวัน (ลิตร) x จำนวนวันเก็บกัก (วัน)
ตัวอย่างเช่น หากบ้านของคุณมีจำนวนสมาชิก 5 คน และใช้น้ำเฉลี่ยวันละ 200 ลิตรต่อคน ต้องการเก็บกักน้ำเสียไว้ 1.5 วัน จึงควรใช้ถังบำบัดน้ำเสียขนาด 1,600 ลิตร
ถังบำบัดน้ำเสียควรติดตั้งให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยควรอยู่ห่างจากแหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำดื่ม อย่างน้อย 10 เมตร ควรติดตั้งให้ถังบำบัดน้ำเสียตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เรียบเสมอกัน และควรติดตั้งท่อระบายน้ำเสียให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล
ถังบำบัดน้ำเสียควรได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยควรสูบสิ่งปฏิกูลออกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากพบว่าน้ำเสียไหลย้อนกลับ ควรตรวจสอบและแก้ไขท่อระบายน้ำเสียให้ถูกต้อง
ถังบำบัดน้ำเสียมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 ปี หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ถังบำบัดน้ำเสียจะสามารถใช้งานได้นานขึ้น
การเลือกถังบำบัดน้ำเสียควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- คุณภาพของวัสดุ
- ประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย
- ขนาดของถัง
- ราคา
จากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว ถังบำบัดน้ำเสียจากแบรนด์ Wave เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยถังบำบัดน้ำเสียจาก Wave ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดี มีหลากหลายขนาดให้เลือก
ถังบําบัดน้ําเสีย 1000 ลิตร ของแบรนด์ Wave มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4,390 บาท ผลิตจากวัสดุ PE เกรดคุณภาพสูง มีระบบบำบัดแบบไร้อากาศ มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดี
ถังบําบัดน้ําเสีย 2000 ลิตร ของแบรนด์ Wave ชนิดเติมอากาศ รุ่น WFF มีราคาอยู่ที่ 24,490.00 บาท ผลิตจากวัสดุ PE เกรดคุณภาพสูง มีระบบบำบัดแบบไร้อากาศ มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดี